วันเสาร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เนื้อเรื่องย่อการ์ตูนบลีช

เทพมรณะ หรือ บลีช (ญี่ปุ่น: ブリーチ Burīchi ในชื่ออังกฤษว่า Bleach ?) เป็นผลงานการ์ตูนญี่ปุ่นของคุโบะ ไทเทะ ซึ่งในขณะนี้ถูกตีพิมพ์ลงนิตยสารโชเน็นจัมป์รายสัปดาห์ในประเทศญี่ปุ่น ตั้งแต่เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2544 ส่วนในประเทศไทยนั้น บลีชกำลังถูกตีพิมพ์ในนิตยสารบูม โดยมีสำนักพิมพ์เนชั่น เอ็ดดูเทนเมนท์เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์
เทพมรณะเป็นเรื่องของ คุโรซากิ อิจิโกะ นักเรียนมัธยมปลายอายุ 15 ปีผู้มีความสามารถมองเห็นวิญญาณ อิจิโกะได้พบกับยมทูตหญิงชื่อ คุจิกิ ลูเคีย ในขณะที่เธอกำลังตามล่าฮอลโลว์ตน หนึ่ง ลูเคียเสียท่าให้กับฮอลโลว์ตนนั้นจึงจำเป็นต้องถ่ายทอดพลังของยมทูตให้กับอิ จิโกะ นับจากนั้นอิจิโกะจึงต้องทำหน้าที่ยมทูตแทนลูเคียจนกว่าพลังของเธอจะกลับมา
นอกจากนี้เทพมรณะได้ถูกสร้างเป็นภาพยนตร์การ์ตูน สองอะนิเมะโอวีเอ สามภาพยนตร์ ละครเพลง วีดีโอเกม และการ์ดเกม โดยภาพยนตร์การ์ตูนออกอากาศทางสถานีทีวีโตเกียว ในเมืองไทยฉายที่ช่อง ทรู สปาร์ค และลิขสิทธิ์ดีวีดีและวีซีดีในประเทศไทยโดย โรส มิเดีย เอ็นเตอร์เทนเมนต์

เนื้อหา

[ซ่อน]

[แก้] เนื้อเรื่อง

[แก้] ภาคสู่ดินแดนทูตมรณะ

เด็กหนุ่มธรรมดาที่มีพลังมองเห็นวิญญาน ที่มีชื่อว่า คุโรซากิ อิจิโกะ ได้พบกับยมทูตหญิงคนนั่นคือ คุจิกิ ลูเคีย แต่ด้วยความสามารถนั้น ทำให้คุจิกิ ลูเคีย เข้าใจผิดและจับตัวไว้หลักจากนั้น ฮอลโลว์ก็ บุกมาที่บ้านของอิจิโกะและได้เล่นงานคนในบ้านจนบาดเจ็บสาหัส ลูเคียได้เอาตัวเข้ารับการโจมตีของฮอลโลว์แทนอิจิโกะจนบาดเจ็บปางตาย ทางเดียวที่จะช่วยเหลือทุกคนได้นั่นก็คือให้อิจิโกะเป็นตัวแทนให้กับคุจิกิ ลูเคีย ทำให้ลูเคียไม่มีพลังพอที่จะกลับไปที่โซลโซไซตี้ ต้องใช้ชีวิตเป็นนักเรียนชั้นมัธยมปลายร่วมกับอิจิโกะ
โซลโซไซตี้ได้ทำการค้นหา คุจิกิ ลูเคีย ที่หายตัวไปในโลกมนุษย์ จึงส่งยมทูตไปตรวจสอบและพบว่าลูเคียนั้นได้มอบพลังยมทูตของตนให้แก่อิจิโกะ ไปแล้ว ซึ่งตามกฏของโซลโซไซตี้นั้นถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง จึงส่งอาบาราอิ เร็นจิ ซึ่งเป็นรองหัวหน้าหน่วยพิทักษ์หน่วยที่หก และคุจิกิ เบียคุยะซึ่ง เป็นพี่ชายของลูเคียและหัวหน้าหน่วยพิทักษ์หน่วยที่หกคุมตัวลูเคียกลับไปโซ ลโซไซตี้ โดยการสู้ในครั้งนี้ทำให้อิจิโกะบาดเจ็บสาหัส ทำให้อิจิโกะต้องเสียพลังของยมทูตไป แต่อุราฮาร่า คิสึเกะได้ ช่วยชีวิตเอาไว้ และยังได้ฝึกฝนจนอิจิโกะสามารถกลับไปเป็นยมทูตอีกครั้ง แต่นั่นก็ทำให้อิจิโกะเกือบจะกลายเป็นฮอลโลว์ เมื่อฝึกสำเร็จแล้วอิจิโกะจึงพาพรรคพวก ได้แก่ อิชิดะ อุริว,ซาโดะ ยาสึโทระ (แช้ด), อิโนะอุเอะ โอริฮิเมะ และ ชิโฮอิน โยรุอิจิไปช่วยคุจิกิ ลูเคียที่โซลโซไซตี้

[แก้] ภาคโซลโซไซตี้

เมื่อไปถึงโซลโซไซตี้ พวกอิจิโกะได้เจอกับคนเฝ้าประตูที่ชื่อ จิดันโบ และต้องต่อสู้กัน โดยจิดันโบพ่ายแพ้ไปแต่แล้ว อิชิมารุ งิน หัวหน้าหน่วยที่สามได้ขับไล่พวกอิจิโกะออกไปจากเซย์เรย์เทย์ โยรุอิจิได้พาพวกอิจิโกะไปยังบ้านของ ชิบะ คุคาคุ เพื่อหาทางเข้าไปยังเซย์เรย์เทย์ โดยได้พาน้องชายของคูคาคุที่ชื่อ ชิบะ กันจู เข้าไปด้วย
เมื่อไปถึงเซเรย์เทย์ ทุกคนก็ได้แยกย้ายกันไปตามจุดโดยอิจิโกะต้องสู้กับนักสู้ลำดับสาม มาดาราเมะ อิกคาคุ ส่วนกันจูต้องสู้กับ นักสู้ลำดับห้า อายาเสะกาวะ ยูมิจิกะ ซึ่งทั้งสองคนเป็นยมทูตจากหน่วยที่สิบเอ็ด แต่อิจิโกะและกันจูก็เอาชนะมาได้ในที่สุด ในระหว่างทางทั้งสองก็ได้ไปพบ ยามาดะ ฮานาทาโร่ นักสู้ลำดับเจ็ดของหน่วยที่สี่ที่ต้องการจะช่วยลูเคียออกมา แต่ในระหว่างทางที่ไปหอสำนึกผิด ซึ่งเป็นที่ที่ลูเคียถูกขัง พวกอิจิโกะได้ไปเผชิญหน้ากับ อาบาราอิ เร็นจิ รองหัวหน้าหน่วยที่หกจึงได้สู้กัน ผลคืออิจิโกะสามารถเอาชนะแบบสะบักสะบอมแต่ฮานาทาโร่ช่วยรักษาให้
ในขณะเดียวกันได้เกิดเหตุการณ์หัวหน้าหน่วยที่ห้า ไอเซ็น โซสึเกะ ได้ถูกฆ่าตาย ทำให้ฮินาโมริ โมโมะ รองหัวหน้าหน่วยที่ห้าที่พบศพเป็นคนแรกขาดสติและต่อสู้กับอิชิมารุ งิน หัวหน้าหน่วยที่สาม แต่ถูกคิระ อิซึรุ รองหัวหน้าหน่วยที่สามขวางเอาไว้จึงเกิดการต่อสู้ขึ้น แต่โชคดีที่หัวหน้าหน่วยที่สิบ ฮิสึกายะ โทชิโร่เข้ามาขวางไว้และจับสองคนไปกักขังเพื่อสงบสติอารมณ์
ในด้านของแช้ด เขาได้เข้าไปในหน่วยที่แปดและได้จัดการนักสู้ลำดับสาม ในเวลาต่อมาเขาต้องพบกับ เคียวราคุ ซุนซุย หัวหน้าหน่วยที่แปด ซึ่งเขาไม่สามารถที่จะสู้ได้จึงต้องพ่ายแพ้ไปและถูกนำตัวไปขัง ในด้านของอุริว เขาได้เผชิญหน้ากับ คุโรซึจิ มายูริ หัวหน้าหน่วยที่สิบสอง และคุโรซึจิ เนมุรอง หัวหน้าหน่วยที่สิบสอง ซึ่งเขาจำเป็นต้องใช้พลังขั้นสุดยอดแลกกับพลังของการเป็นพรตปราบมาร ทำให้เขาสามารถชนะได้ แต่เมื่อไปถึงหอสำนึกผิดได้พบกับโทเซ็น คานาเมะ หัวหน้าหน่วยที่เก้า ที่ได้มาดักรออยู่แล้ว เนื่องจากร่างกายที่สะบักสะบอมและพลังของเขาที่เพิ่งใช้หมดไป จึงต้องพ่ายแพ้ไปและต้องถูกขังคุกเหมือนกับแช้ด
ทางด้านของอิจิโกะ กันจู และฮานาทาโร่ เขาต้องเผชิญหน้ากับ หัวหน้าหน่วยที่สิบเอ็ด ซาราคิ เคมปาจิ ซึ่งเขาได้บอกให้ฮานาทาโร่ และกันจูวิ่งหนีไป ส่วนตัวเขานั้นจะสู้เอง อิจิโกะทำการต่อสู้กับเคมปาจิ ซึ่งพลังของเขาไม่สามารถสู้ได้เลย จึงได้ร่วมมือกับซันเงสึทำให้สามารถชนะได้แต่ร่างกายที่สู้ต่อไม่ไหวเขาจึง ต้องนอนอยู่ตรงนั้นต่อไป แต่โชคดีโยรุอิจิมาช่วยรักษาให้จนอิจิโกะหายดี เมื่อหายดีแล้วอิจิโกะก็ได้รีบเร่งไปช่วยลูเคีย โดยที่โยรุอิจิยังไม่ได้บอกให้ไป
ทางด้านของกันจูและฮานาทาโร่ หลังจากที่เขาได้ไปพบลูเคียแล้ว แต่ก็ต้องเผชิญหน้ากับ คุจิกิ เบียคุยะ หัวหน้าหน่วยที่หก ซึ่งเบียคุยะใช้ เซ็มบงซากุระ ดาบฟันวิญญาณของเขาจัดการกันจูอย่างง่ายดาย ต่อมาอิจิโกะเข้ามาช่วย หลังจากสู้ไปได้ไม่นานโยรุอิจิก็ได้บังคับพาตัวอิจิโกะกลับไป ส่วนฮานาทาโร่และกันจูก็ถูกจับขังคุก
ในระหว่างนั้นอิจิโกะได้ฝึกฝน ตัวเองกับซันเงสึ เพื่อฝึกฝนการใช้ปลดปล่อยสวัสดิกะ ซึ่งเขามีเวลาแค่สามวันเท่านั้น แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อคำสั่งประหารลูเคียได้เลื่อนเข้ามา โดยเร็นจิเข้ามาบอกข่าวนี้ให้กับอิจิโกะ ทำให้ต้องรีบฝึกฝนเป็นอย่างเร่งด่วนและไม่นานนักเขาก็ฝึกฝนจนสำเร็จ
และ ในเวลานั้นเอง เร็นจิก็ได้คิดทรยศไปช่วยลูเคีย ซึ่งเขาต้องเผชิญกับ เบียคุยะ หัวหน้าหน่วยของเขา แต่เนื่องจากเบียคุยะใช้ปลดปล่อยสวัสดิกะ ทำให้เร็นจิต้องพ่ายแพ้ไป แต่แล้วฮานาทาโร่กับริคิจิก็ได้มาช่วยรักษาแผลให้เขา ทำให้เร็นจิสามารถกลับไปต่อสู้ได้
ทางด้านของซาราคิ เขาได้พาโอริฮิเมะไปช่วยกันจู แช้ด และอุริวแล้วจึงพาทุกคนไปหยุดการประหารลูเคียแต่ก็ต้องเผชิญหน้ากับโทเซ็น และโคมามูระ ซึ่งซาราคิก็เอาชนะโทเซ็นได้อย่างง่ายดาย แต่เมื่อซาราคิจะฆ่าโทเซ็น โคมามูระก็ได้มาขวางไว้และได้ใช้ปลดปล่อยสวัสดิกะ แต่พอสู้ได้ไม่นาน โคมามูระก็หนีไปเนื่องจากเห็นหัวหน้าใหญ่ยามาโมโตะปลดปล่อยดาบฟันวิญญาณ
ทาง ด้านของลูเคีย การประหารได้เริ่มขึ้นแล้วแต่แล้วอิจิโกะก็ปรากฏออกมาพร้อมกับทำลายแท่น ประหาร ส่วนเร็นจิที่ตามมาก็ได้พาลูเคียหนีไป จากนั้นหัวหน้าหน่วยที่สิบสาม อุคิทาเกะ จูชิโร่ และหัวหน้าหน่วยที่แปด เคียวราคุ ซุนซุย ก็ได้ปรากฏมาและได้ทำลายเครื่องประหารชื่อว่าโซเคียคุทิ้งจึงเกิดการต่อสู้ กัน โดยที่อิจิโกะสู้กับเบียคุยะ อุคิทาเกะและซุนซุยสู้กับหัวหน้าใหญ่ยามาโมโตะ และขณะนั้นเองโยรุอิจิก็ได้เข้ามาและต่อสู้กับซุยฟง
ทางด้านของอุคิ ทาเกะ ซุนซุย และหัวหน้าใหญ่ยามาโมโตะ ทั้งสามหลังจากสู้กันได้ไม่นานก็ได้โดยปลดปล่อยดาบของตนออกมา ส่วนด้านโยรุอิจิกับซุยฟง หลังจากที่สู้กันไม่นาน ซุยฟงได้ปลดปล่อยดาบและใช้วิชาสุดยอดของหน่วยลับ ซึ่งทำให้โยรุอิจิต้องแสดงพลังสุดยอดออกมา จึงทำให้ซุยฟงต้องพ่ายแพ้ไป
ส่วน ทางด้านอิจิโกะกับเบียคุยะ ทั้งสองสู้กันอย่างสูสีจนทำให้เบียคุยะต้องปลดปล่อยสวัสดิกะ เซ็มบงซากุระ คาเงโยชิ ซึ่งทำความเสียหายอย่างมากจนอิจิโกะต้องใช้ปลดปล่อยสวัสดิกะ เท็นสะ ซันเงสึ หลังจากที่ฝึกมาสามวัน ซึ่งจากการที่ปลดปล่อยสวัสดิกะนั้นได้สร้างความเสียหายจนทำให้เบียคุยะต้อง ใช้ เซ็มบงซากุระ คาเงโยชิ ซูเคย์ ที่แปรสภาพจากซากุระมาเป็นดาบ หลังจากสู้ต่อไปได้สักพักเบียคุยะที่เกือบชนะอิจิโกะได้เผชิญกับร่างฮอลโลว์ ของอิจิโกะก็ได้เข้าแทรกและได้เล่นงานเบียคุยะ แต่สุดท้ายอิจิโกะก็ได้กลับมาร่างเดิมและทั้งสองฝ่ายได้งัดพลังสุดยอดออกมา ใช้และได้ปะทะกัน ผลที่ออกมาคืออิจิโกะชนะแล้วโอริฮิเมะกับคนอื่นก็มารับ(ความจริงคือเบียคุยะ เสมอกับอิจิโกะแต่ดาบของเบียคุยะแตกกลายเป็นซากุระไปเบียคุยะจึงจากไปโดยที่ ยังไม่รู้ผล)
ในระหว่างนั้นงินได้ชวนฮินาโมริเข้ามาในหอแห่งหนึ่งพอฮินาโมริหันหลังไปก็ได้พบกับ หัวหน้าหน่วยห้า ไอเซ็น โซสึเกะ ซึ่งไอเซ็นได้ฆ่าฮินาโมริหลังจากที่เดินมาปลอบเธอ ทันใดนั้นเอง ฮิสึกายะ โทชิโร่ หัวหน้าหน่วยที่สิบก็ได้มาเจอพอดีจึงโกรธมากจึงใช้ปลดปล่อยสวัสดิกะ แต่ก็สู้พลังของไอเซ็นไม่ได้ ซึ่งเป้าหมายของไอเซ็นคือโฮเงียคุซึ่งอยู่ในตัวลูเคีย โดยที่เขามีงินและโทเซ็นเป็นลูกน้อง จึงได้ตามไปหาเร็นจิและได้ใช้กำลังเอาตัวลูเคียมา อิจิโกะได้มาขวางแต่เขากลับสู้ไอเซ็นไม่ได้เลย ถึงแม้จะร่วมมือกับเร็นจิก็ตาม
หลังจากที่ไอเซ็นได้โฮเงียคุมาแล้ว ก็ได้ให้งินฆ่าลูเคีย แต่เบียคุยะกลับมาขวางทำให้ลูเคียรอดตาย และหัวหน้าหน่วยทั้งหมดก็ได้ยกเลิกการต่อสู้กันและได้มาหาไอเซ็น งิน และ โทเซ็น แต่ก็ได้มีแสงจากเมนอสมารับทั้งสามคน ทำให้หัวหน้าหน่วยที่เหลือทำอะไรไม่ได้เลย

[แก้] ภาคอารันคาร์

หลังการกบฎของไอเซ็น อิจิโกะก็ได้กลับโลกมนุษย์พร้อมกับคนที่เหลือ โดยลูเคียบอกว่าจะอยู่โซลโซไซตี้ และในชั้นเรียน อิจิโกะได้พบกับ ฮิราโกะ ชินจิ ซึ่งเป็นไวเซิร์ด ฮิราโกะได้ชักชวนให้อิจิโกะมาเป็นพวกเดียวกันแต่อิจิโกะกลับปฏิเสธ และในระหว่างนั้นเองได้มีเมนอสสองตัวปรากฏตัวมาซึ่งตัวแรก อิชิดะ ริวเคน พ่อของอุริว เป็นคนจัดการ ส่วนแกรนด์ฟิชเชอร์ คุโรซากิ อิชชิน พ่อของอิจิโกะเป็นคนจัดการ โดยที่อิชชินบอกให้กอนที่อยู่ในร่างอิจิโกะปิดเป็นความลับ
ใน วันรุ่งขึ้นอิจิโกะก็ได้เจอฮิราโกะที่ยังตื๊อไม่หยุดแม้ว่าจะไล่ยังไงชินจิ ก็ยังจะตื๊อต่อไปจนกว่าอิจิโกะจะมาเป็นพวกไวเซิร์ด หลังจากนั้นไม่นานอารันคาร์ สองตนก็ได้ปรากฏตัวขึ้นที่โลกมนุษย์พร้อมกับ ดูดกลืนวิญญานมนุษย์ไปเป็นจำนวนมาก แช้ดกับอิโนะอุเอะจึงต้องไปหยุดยั้ง แต่แช้ดก็ถูกยามี่ หนึ่งในอารรันคาร์ที่มาบุกทำลายจนแขนขาด ส่วนอิโนะอุเอะที่กำลังจะถูกจัดการก็ได้อิจิโกะเข้ามาช่วย อิจิโกะได้ปลดปล่อยสวัสดิกะ และทำร้ายยามี่จนบาดเจ็บ จนยามี่ต้องใช้ดาบฟันวิญญาน แต่ในระหว่างนั้นอิจิโกะก็ถูกเข้าแทรกโดยด้านร่างฮอลโลว์ของตนเอง ทำให้เขาถูกยามี่ทำร้ายจนบาดเจ็บ แต่ก่อนที่เขาจะโดนจัดการ โยรุอิจิกับคิสึเกะก็มาช่วยไว้ทัน
โดยทั้งสองคนได้ต่อสู้กับยามี่จน ตัดแขนยามี่ได้ ทำให้ยามี่โกรธมาจนต้องใช้ซีโร่ แต่ก็ถูกทำลายโดยเบนิฮิเมะของคิสึเกะ ขณะที่คิสึเกะกำลังจะปลิดชีพยามี่นั้น อุลคิโอร่าหนึ่งอาร์รันคาร์อีกคนก็ได้มาปัดคลื่นพลังที่คิสึเกะปล่อยออกมา เพื่อจัดการยามี่ทิ้งพร้อมกับซัดยามี่ไปหนึ่งทีจนสลบแล้วจึงกลับไป ส่วนโอริฮิเมะกับอิจิโกะก็ถูกพาตัวไปรักษา
ในเวลาต่อมา ยูมิจิกะ อิกคาคุ โทชิโร่ รันงิคุ และลูเคียก็ได้มาโลกมนุษย์ พร้อมกับอธิบายเรื่องฮอลโลว์ชันเมนอสกับอาร์รันคาร์ให้อิจิโกะฟัง โดยอาร์รันคาร์ก็คือฮอลโลว์ที่ไขว่คว้าพลังยมทูตด้วยการถอดหน้ากากออก ถ้าเป็นฮอลโลว์ธรรมดาที่คล้ายเป็นอารันคาร์นั้นมีพลังไม่มากนัก แต่ฮอลโลว์ชั้นเมนอสกรังเด้ที่กลายเป็นอารันคาร์มีพลังมากกว่า โดยเมนอสกรังเด้ยังแยกย่อยได้อีกสามชนิด คือ หนึ่งคือ กิลเลี่ยน มีจำนวนมาก ระดับชั้นพอกับทหารเลว ตัวใหญ่ และเชื่อช้า สองคือ แอดจูคาส มีจำนวนน้อยกว่ากิลเลียน แต่ฝีมือเก่งกว่ากิลเลียน ตัวเล็กกว่ากิลเลียน มีสติปัญญามากขึ้น และสามคือ วาสโทรเด้ มีขนาดเล็กเท่ามนุษย์ ฝีมือเหนือกว่าอารันคาร์ทั้งหมด ระดับพลังวิญญาณสูงกว่าระดับหัวหน้าหน่วย โดยโทชิโร่ได้อธิบายทิ้งท้ายว่า ดังนั้นหากมีอารันคาร์ระดับวาสโทรเด้สักยี่สิบตน โลกและโซลโซไซตี้จะต้องพินาศอย่างแน่นอน ขณะนั้นเอง อุลคิโอร่าและยามี่กลับไปรายงานไอเซ็น ก็ได้พบว่ามีอาร์รันคาร์มากถึงยี่สิบตน ซึ่งอุลคิโอร่าได้แสดงให้ไอเซ็นดูเกี่ยวกับการต่อสู้ทั้งหมด
หลัง จากนั้นกริมจอว์ หนึ่งในสิบอารันคาร์ที่มีฝีมือสูงสุดหรือเอสปาด้า เขาเป็นผู้มีความสามารถในลำดับหก ก็ได้บุกไปโลกมนุษย์พร้อมกับนาคีม, อิลฟอร์ท, เอโดราโด้, เชาหลง และดีรอย แต่ทุกคนก็ถูกกำจัดหมดยกเว้น กริมจอว์ โดยอิลฟอร์ท ถูกเร็นจิจัดการ นาคีมถูกรันงิคุจัดการ เอโดราโด้ถูกอิคาคุจัดการ ดีรอยถูกลูเคียจัดการ และเชาหลงถูกโทชิโร่จัดการ ส่วนกริมจอว์ได้สู้กับอิจิโกะแต่ในระหว่างต่อสู้โทเซ็นมารับตัวกริมจอว์กลับ ไปตามคำสั่งของไอเซ็น กิรมจอว์จึงต้องกลับไปก่อน ทำให้อิจิโกะรอดตายแต่ก็ต้องเจ็บใจที่ตนเองพ่ายแพ้ไปในที่สุด
หลัง จบศึกสู้กับอาร์รันคาร์ อิจิโกะได้ไปหาพวกไวเซิร์ดเพื่อที่จะหาวิธีกำราบฮอลโลว์ในตัวเขา ทำให้เขาต้องต่อสู้กับอีกด้านหนึ่งของเขาจนเอาชนะมาได้ด้วยการเร่งเร้า "สัญชาตญาณ" ขึ้นมาข่มด้านฮอลโลว์เอาไว้ ต่อมาอิจิโกะได้ฝึกการแปลงสภาพเป็นฮอลโลว์ แต่ก็แปลงเป็นฮอลโลว์ได้นานแค่สิบเอ็ดวินาทีเท่านั้น
ขณะนั้นเองไอ เซ็นได้ทดลองปลดปล่อยสภาพจำศีลของโฮเงียคุได้สำเร็จด้วยการผสานพลังเข้ากับ ผู้ที่มีพลังกดดันวิญญาณในระดับหัวหน้าหน่วยแล้วทดลองสร้างอารันคาร์จาก ฮอลโลว์ปริศนาร่างเล็กเท่ามนุษย์ที่ชื่อว่า วอนเดอร์ไวซ์ มัลเจร่า และหลังจากนั้นไอเซ็นก็ได้ส่งอารันคาร์สี่ตนไปยังโลกมนุษย์ ซึ่งได้แก่ กริมจอว์, ยามี่, วอนเดอร์ไวซ์, และลูปี จึงได้เกิดการต่อสู้กันระหว่างอารันคาร์กับยมทูต โดยอิจิโกะต่อสู้กับกริมจอว์ ยามี่ต่อสู้กับคิสึเกะ วอนเดอร์ไวซ์นั่งจับแมลงปอ และลูปีต่อสู้กับโทชิโร่ ยูมิจิกะ อิกคาคุ และรันงิคุ โดยผลออกมาคือ คิสึเกะเล่นงานยามี่จนยับเยินด้วยกายหยาบแบบลูกโป่งของเขา วอนเดอร์ไวซ์ยังคงนั่งจับแมลงปอต่อไป ลูปีถูกโทชิโร่จัดการด้วยคุกน้ำแข็งพันปี ส่วนกริมจอว์ถูกชินจิเล่นงานและในระหว่างนั้นเอง อุลคิโอร่าก็ได้มาห้ามกริมจอว์ไว้เนื่องจากภาระกิจชิงตัวโอริฮิเมะจบแล้ว อารันคาร์ทั้งห้าตนจึงเดินทางกลับลาส์นอเช่
หลังจากที่ทุกคนรู้ว่าโอ ริฮิเมะถูกอารันคาร์ลักพาตัวไป ก็ได้คิดจะไปช่วยแต่ถูกหัวหน้าใหญ่ยามาโมโตะห้าม จึงต้องเดินทางกลับไปกันหมดทุกคนเหลือแต่อิจิโกะคนเดียว ซึ่งเขาก็ได้คิดจะไปช่วยโอริฮิเมะ เมื่ออุริวกับแช้ดรู้ข่าว ก็ได้คิดจะไปช่วยโอริฮิเมะพร้อมกับอิจิโกะด้วยโดยก่อนหน้าที่จะไปฮูเอโก้ มุนโด้ อิจิโกะได้ไปโรงเรียนอีกครั้ง อาริซาว่า ทัตสึกิ เข้าไปถามอิจิโกะด้วยอาการโกรธแค้นว่าโอริฮิเมะหายไปไหน แต่อิจิโกะก็บอกทัตสึกิไม่ได้ ทัตสึกิจึงสารภาพว่าเธอได้เห็นอิจิโกะใส่ชุดของยมทูตต่อสู้กับอารันคาร์หลาย ครั้ง และขอให้อิจิโกะสารภาพความจริงทั้งหมด แต่อิจิโกะกลับปฏิเสธจึงเกิดการทะเลาะกัน
หลังเลิกเรียน เพื่อนของอิจิโกะโดยมีอาริซาว่า ทัตสึกิ, อาซาโนะ เคโงะ และโคจิมะ มิซึอิโระ ตามอิจิโกะไปยังร้านของอุราฮาร่า และก็ได้รู้ความจริงว่า ที่อิจิโกะทำไปก็เพราะเป็นห่วงโอริฮิเมะเหมือนกัน ทั้งสามบุกเข้าไปยังฮูเอโก้ มุนโด้ แช้ดและอุริวได้จัดการอารันคาร์ที่เข้ามาขวางทั้งสองตน สามารถออกได้จากรังลับของอารันคาร์ และได้มาอยู่ตรงหน้าปราสาทลาส์นอเช่และได้เดินทางเข้าไป
อีกด้านของ ของเหล่าเอสปาด้าได้ประชุมกันเพื่อรับมือกับเหล่าผู้บุกรุก จนเมื่อกริมจอว์ได้รู้ว่ามีอิจิโกะบุกเข้ามาด้วย ก็อยากจะสู้กับอิจิโกะแต่ถูกไอเซ็นห้ามไว้ หลังจากจบการประชุมของเหล่าเอสปาด้า อุคิโอร่าที่มีหน้าที่ดูแลโอริฮิเมะก็ได้บอกแก่โอริฮิเมะว่าพวกอิจิโกะได้ เข้ามายังฮูเอโก้ มุนโด้แล้ว
ทางฝ่ายของอิจิโกะเดินเท่าไหร่ก็ไม่ สามารถเข้าใกล้ปราสาทลาส์นอเช่ได้เลย ทั้งสามคนจึงหยุดพัก ระหว่างนั้นก็ได้พบกับอารันคาร์สามตน ประกอบไปด้วย เนล, เปชเช่, ดอนโดแจ็ค และสัตว์เลี้ยงชื่อ บาวาบาว่า โดยเข้าใจผิดว่าเนลเป็นมนุษย์เลยเข้าไปช่วย แต่เมื่อเห็นเนลมีหน้ากากเลยรู้ความจริงว่าเป็นฮอล์โลว์ ทั้งหกจึงขี่บาวาบาว่าเพื่อไปยังลาส์นอเช่ และได้พบกับผู้เฝ้าชื่อลูนูกังก้า จึงเกิดต่อสู้กันแต่ไม่ได้รับชัยชนะ แต่ก็ได้รู้จุดอ่อนของมันคือต้องใช้น้ำในการต่อสู้ แต่ก็ไม่สามารถหาน้ำได้เพราะอยู่ในทะเลทราย ทันใดนั้นก็มีท่าจากดาบฟันวิญญาณของลูเคียเข้ามาช่วย ลูเคียและเร็นจิที่มาช่วยอิจิโกะ ทั้งลูเคียและเร็นจิได้หลบหนีจากโซลโซไซตี้จากการรู้เห็นของ คุจิกิ เบียคุยะ ทั้งสองก็ได้ว่ากล่าวพวกอิจิโกะที่ด่วนเข้าฮูเอ้โก้ มุนโด้ หลังจากนั้นทั้งอิจิโกะ และเร็นจิก็พังกำแพงด้านข้างของปราสาทลาส์นอเช่สำเร็จ เหล่ายมทูตทั้งห้าคนเมื่อเข้าฮูเอโก้ มุนโด้ต่างก็แยกทางกันไปได้ห้าทางและสัญญาว่าจะต้องรอดชีวิตกลับมาอีกครั้ง ก็เหลือแต่อารันคาร์ เนลจึงเลือกทีจะตามอิจิโกะไป เปชเช่ก็ตามเนลไปแต่ไปผิดทางจึงพบกับอุริว ส่วนดอนโดแจ็คก็ตามเนลไปเหมือนกันแต่เจอกันเร็นจิแทน
อิจิโกะได้ไป ยังรังของเทรซซีรัฟหรือพีวารอน ซึ่งเป็นรังของเหล่าเอสปาด้าที่ตกชั้นกับพวกอารันคาร์สามหลัก และได้ต่อสู้กับ อารันคาร์ No.103 ดอนโดนี่คิดว่าถ้าตนชนะอิจิโกะได้จะได้กลับไปเป็นเอสปาด้าดังเดิมจึงท้าอิจิ โกะให้ปลดปล่อยสวัสดิกะและแปลงร่างเป็นฮอลโลว์โดยทำร้ายเนลเป็นตัวกระตุ้น สุดท้ายก็แพ้และถูกหน่วยเอ็กซีคิวส์(หน่วยล่าสังหาร)ที่ซาเอล อพอลโล่ส่งออกไปเก็บ อุริวก็สู้กับจิรุจิอารันคาร์ No.105 จิรุจจิแพ้และโดนหน่วยเอ็กซีคิวส์(หน่วยล่าสังหาร)เก็บเหมือนกับดอนโดนี่ ส่วนแช้ดก็ได้แสดงพลังที่แท้จริงของแขนทั้งสองข้างของเขาออกมาขณะต่อสู้กับ อารันคาร์ No.107 กันเทนไบน์ มอสเคด้า จนสามารถเอาชนะได้ไปได้อย่างสบายด้วย"ลาร์มูเอเต้"(การโจมตีของจอมมาร)ส่วน ลูเคีย เจอกับ เอสปาด้าหมายเลข 9 อาโรนีโร่ อัลลูรี่ ปลอมเป็นไคเอ็นทำให้ลูเคียสับสน และ ไม่มีความกล้าที่จะต่อสู้ด้วย แต่ก็ชนะมาได้ด้วยระบำที่3 ชิราฟุเนะ(ดาบสีขาว) แต่ก็ไม่ทราบว่าตายรึยังเพราะถูกหอกแทงทะลุร่าง ส่วนเร็นจิเมื่อเจอกับดอนโดแจ็ค ก็ตกลงไปในหลุมพรางของ เอสปาด้าหมายเลข 8 ซาเอล อะพอลโล แกรนซ์แต่ก็ไม่สามารถชนะได้เพราะดาบถูกสะกดไม่ให้ปลดปล่อยสวัสดิกะ
แต่ แล้วหลังจากที่แช้ดชนะ เขาก็ต้องเจอกับเอสปาด้าหมายเลข 5 อย่างนอยโทร่าจึงได้แพ้ราบคาบ เพราะ ลาร์มูเอร์เต้ของแช้ดนั้นไม่สามารถโจมตีทะลุ"ฮิเอโร่"(ผิวเหล็ก)ของนอยโทร่า ได้ และ โล่ของเขาก็ไม่สามารถป้องกันการโจมตีของ"ซานต้า เทเรซ่า"ดาบฟันวิญญาณของนอยโทร่าได้ ทางฝั่งอิจิโกะที่ได้เผชิญหน้ากับอุ ลคิโอร่านั้นอิจิโกะได้ปลดปล่อยสวัสดิกะเข้าต่อสู้และแปลงเป็นฮอลโลว์เข้า โจมตีแต่อุลคิโอร่าใช้แค่แขนข้างเดียวซัดอิจิโกะกระเด็นและหน้ากากก็แตก และในที่สุดอิจิโกะรู้ว่าอุลคิโอร่าไม่ใช่เอสปาด้าหมายเลข1แต่เป็นหมายเลข 4(Cuator Espada )และใช้ซีโร่ซัดอิจิโกะตกลงไปแล้วเจาะรูที่หน้าอกตำแหน่งเดี่ยวกับของตน
ตัด กลับมาที่อุริวซึ่งชนะจิรุจจิแล้วก็ได้ไปเจอกับเร็นจิที่สู้อยู่กับ อะพอลโล แล้วอุริวได้ช่วยต่อสู้โดยใช้ สเปรงเกอร์(ขอบเขตทำลายล้าง)ซึ่งใช้ เซ่เล่ชไนเดอร์ วางเป็นรูปกางเขนควินซี่แล้วหยดอณูวิญญาณควบแน่นลงไปทำให้เกือบชนะ อะพอลโล แต่เพราะ อะพอลโล กิน ฟรานเชี่ยน ของเขาทำให้รักษาอาการบาดเจ็บได้หมด ตัดกลับไปที่อิจิโกะที่นอนสลบอยู่แล้วกริมจอว์ ก็โผล่มาโดยพา อิโนะอุเอะ มาด้วยแล้วให้รักษา อิจจิโกะ เพราะจะสู้กับอิจจิโกะในสภาพที่ไม่มีบาดแผล ระหว่างรักษา อุลคิโอร่า ก็โผล่มานำตัวอิโนอุเอะกลับไป แต่กริมจอว์มาขวางไว้เลยเกิดการปะทะขึ้นแล้วกริมจอว์ก็ใช้ คาฮาเนกาเชี่ยน ขังอุลคิโอร่าไป เมื่ออิจิโกะฟื้นแล้วก็ทำการต่อสู้ กับกริมจอว์
หลัง จากที่อิจิโกะปลดปล่อยสวัสดิกะแล้วต่างฝ่ายต่างจู่โจมเข้าหากันทันที ท่ามกลางการต่อสู้นั้น เนลซึ่งเกลียดการต่อสู้ และเป็นห่วงอิจิโกะอีกทำให้เนลกลัวการต่อสู้มากยิ่งขึ้น แต่อิโนะอุเอะก็ยังคงปลอบประโลมว่าอิจิโกะต้องทำได้ และยังมั่นใจอีกว่าอิจิโกะต้องชนะเพื่อทำให้เนลสบายใจ ทั้งๆที่ตัวเธอเองนั้น ยังหวาดหวั่นในใจ การต่อสู้นั้นไม่มีใครต่างยอมใคร เพราะการต่อสู้นี้เป็นนัดชี้ชะตา และจะไม่มีใครขัดขวางได้ แต่แล้วกริมจอว์ก็ปล่อย ซีโร่ที่ทางอานุภาพมากที่สุดในหมู่เอสปาด้าคือ กรังด์ เรย์ ซีโร่(ลำแสงราชันย์ฮอลโลว์) แต่สิ่งที่อิจิโกะปล่อยออกมาคือ พลังของฮอลโลว์ในตัวอิจิโกะในรูปหน้ากากฮอลโลว์ ทำให้สิ่งที่กริมจอว์คาดหวังนั้นประสบผลแล้ว การที่กริมจอว์ปล่อยพลังนี้ออกมา อิโนะอุเอะและเนลก็รับรู้ถึงพลังนั้น ทำให้ความกลัวนั้นยิ่งน่าเกรงกลัวยิ่งขึ้นและยังสัญญาว่าจะทำให้มันจบลง
เมื่อ สิ่งที่คาดหวังมาถึงก็ถึงเวลาที่กริมจอว์ปลดปล่อยดาบของตัวเองเช่นกัน "จงเสียดเสียง แพนเทร่า (ราชันย์พยัคฆ์)" อิจิโกะบอกให้อิโนะอุเอะกั้นโล่สามสวรรค์หน้าตัวเองกับเนล เมื่อการต่อสู้ดำเนินต่อไป อิจิโกะตะลึงกับแรงอัดเสียงของกริมจอว์ ไม่รอช้า กริมจอว์จู่โจมอิจิโกะอย่างรวดเร็ว ทำให้อิจิโกะบาดเจ็บอย่างไม่น่าสงสัย แถมยังดูถูกเพราะรู้ดีว่าฝีมือของอิจิโกะไม่ใช่แค่นี้ และอิจิโกะก็จู่โจมโดยใช้ เก็คขะ(เขี้ยวจันทรา) เท็นโช (ทะลวงสวรรค์)การบาดเจ็บของกริมจอว์ทำให้ความแค้นเกิดขึ้น กริมจอว์ตอบโต้อย่างไม่ยั้ง ทำให้หน้ากากของอิจิโกะแตกเหลือเศษส่วนเพียงเล็กน้อย แต่นั้นก็เป้นการกระตุ้นอิจิโกะด้วย ทำให้อิจิโกะต้องนำดาบที่คมกริบ ฟาดฟันกริมจอว์ด้วยพลังฮึดสุดท้าย กริมจอว์พ่ายแพ้อย่างหมดท่า แต่ดีใจได้เพียงไม่นานกริมจอว์ลุกขึ้นมาอย่างขี้แพ้ชวนตี แต่อิจิโกะไม่ต้องการจะต่อสู้แล้ว เพราะรู้ผลว่ากริมจอว์นั่นแพ้แล้ว แต่เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น นอยโทร่า(เอสปาด้าหมายเลข 5) เข้ามาปรากฏตัวพร้อมโจมตีกริมจอว์ จนหมอบไป อิจิโกะที่หมดเรี่ยวแรง ผลจากที่ต่อสู้กับกริมจอว์เข้าต่อสู้ ระหว่างที่ทั้ง 2 กำลังต่อสู้กัน เนลที่สูญเสียหน้ากากฮอลโลว์ ได้ค่อยๆกลายร่างเป็นเนลเลียน ซึ่งก็คือ อดีตเอสปาด้าอันดับที่ 3 โดยเนเลียนต่อสู้กับดอยโทร่า ได้สูสี จนสามารถจะล้มได้แล้ว ทว่า เนลเลียนได้กลับคืนร่างเดิม อันตรายได้คลืบคลานสู่อิจิโกะ และ เนล ด้าน อิชิดะและเรนจิ ได้ต่อสู้กับ ซาเอลอพอลโล่ รอบ 2 คราวนี้ เขาได้ใช้ไม้ตายเหมือนตุ๊กตาลงทัณฑ์ ใช้ค่อยๆทรมานทั้ง 2 ดอนโคแจ๊ค และ เปชเช่ซึ่งรู้ถึงพลังของเนเลียนจึงเข้าปะทะกับซาเอลอพอลโลด้วยพลังที่ปกปิด ไว้ ทางอิจิโกะ ขณะที่กำลังจะจนมุม ซาราคิ เค็นปาจิ ก็เข้ามาช่วยอิจิโกะสู้กับ นอยโทร่าด้วย ทางด้านอิชิดะและเร็นจิ เมื่อจนมุม คุโรซึจิ มายูริและ เนม เข้ามาช่วยได้ทัน ซาเอล อพอลโล เมื่อสู้มายูริไม่ได้จึงสิงร่างเนม แล้วดูพลังงานวิญญาณ แต่ก็ไม่สามารถชนะมายูริที่มาพร้อมทรงผมใหม่ด้าน คุจิกิ เบียคุยะที่มาช่วยลูเคีย ก็เข้ามาสู้กับ โซมารี เอสปาด้า หมายเลข 7 ซึ่งสามารถเอาชนะได้ด้วยการใช้ เซมบ้ง ซากุระ คาเงโยชิ เช่นกันทางนอยโทร่าที่ถึงขั้นปลดปล่อยซาตานเทเรสซ่าและคำปลดปล่อยคือ"จงอ้อน วอน"แต่ก็พ่ายแพ้แก่ ซาราคิ แต่แล้ว โอริฮิเมะก็ถูก สตาร์ค จับตัวไป เมื่อพบกับไอเซ็น ไอเซ็นจึงจะไปหาโอเค็น ซึ่งดันเจอ 13 หน่วยพิทักษ์แห่งโซลโซไซตี้มา เพื่อขัดขวาง ซึ่งทาง ลาสต์นอเช่ ก็ฝากให้อุลคิโอร่าจัดการ

[แก้] ภาคฮูเอโกมุนโด้และศึกเมืองมายาคาราคุระเทาว์

ได้มีการกล่าวถึงอดีตในโซลโซไซตี้ ฮิราโกะ ชินจิ(ตอนเป็นหัวหน้าหน่วย 5) และเหล่าไวเซิร์ดทราบข่าวเรื่องมียมทูตหายตัวไป เค็นเซย์ และ มาชิโระ จึงไปตรวจดู แต่ก็หายตัวไป พวกไวเซิร์ดคนอื่น (ดูตำแหน่งขณะนั้นที่หัวข้อ 13 หน่วยพิทักษ์) จึงไปดู ต้องปะทะกับพวกเค็นเซย์ที่เป็นฮอลโลว์ พวกฮิราโกะได้รู้ว่า ไอเซ็น อิจิมารุ และ โทเซ็น ได้ใช้พลังในการสะกดทุกคน (เคียวขะซุยเกสึ) ทำให้พวกฮิราโกะจนมุม เมื่อคิสึเกะมาช่วย พวกไอเซ็นกลับไปแจ้งข่าวว่า พวกฮิราโกะ และ อุราฮาร่า เป็นต้นตอของเรื่องการหายตัว พวกไวเซิร์ด อุราฮาร่า เท็ตไซ และ โยรุอิจิ จึงถูกเนรเทศออกจากโซลโซไซตี้[โดยที่ทุกคนไม่รู้เรื่องความจริงเกี่ยวกับพวก ไอเซ็น แต่คนที่ถูกเนรเทศครั้งนี้รูเรื่องเกี่ยวกับไอเซ็นทุกคน]
กลับ สู่เนื้อเรื่องปัจจุบัน ระหว่างที่พวกไวเซิร์ดเตรียมการศึก อุลคิโอร่าได้ถามถึงความกลัวที่จะถูกฆ่าต่อโอริฮิเมะ ซึ่งจิตใจของทุกคนยังมุ่งไปสู่การช่วยโอริฮิเมะ ระหว่างทาง เหล่ามือล่าสังหารได้เข้าจู่โจม อิจิโกะ แต่ แช็ด ลูเคีย และ เร็นจิมาช่วยขวางไว้ อิจิโกะจึงทะลวงลาสต์นอเช่เข้าปะทะกับอุลคิโอร่าอีกครั้ง
กลับสู่โลก มนุษย์ มีอารันคาร์ที่เข้าจู่โจมเสาหลัก(ที่ทำให้เมืองเป็นของปลอม) แต่ก็โดน ยูมิจิกะ คิระ และ ฮิซากิ เข้าจัดการ ยูมิจิกะ ได้ถูกขังในโลกมืดจึงปลดปล่อยดาบของจริง จึงเอาชนะได้ ทางคิระเมื่อถูกอารันคาร์ยั่วเรื่องอิจิมารุ จึงเริ่มตอบโต้และเอาชนะได้ และสุดท้ายทางฮิซากิ เมื่อจนมุมได้นึกถึงคำพูดของหัวหน้าโทเซ็นว่า ผู้ที่ไม่เกรงกลังดาบของตนเอง ย่อมไม่มีคุณสมบัติจะจับดาบต่อสู้ แล้วฮึกเหิมเอาชนะได้ ทว่าเสาต้นสุดท้ายถูกทำลายลงเพราะ อิกคาคุ ถูกจัดการแล้ว แตทว่านั้นคือเขาซ้อนคือมีเสาของจริงอยู่ด้านใน ซึ่ง อิบะ และ โคมามูระ เข้ามาช่วย อิบะได้รู้เรื่องของอิกคาคุมานานแล้ว และรู้ว่าอิกคาคุไม่ยอมปลดปล่อยสวัสดิกะเพราะเหตุใด จึงสั่งสอนว่า ถ้าไม่อยากใช้บังไค ก็จงแข็งแกร่งขึ้นจนชนะโดยไม่ต้องใช้บังไคซิ โคมามูระและอิบะ จึงสัญญาว่าจะเก็บเป็นความลับ ทว่า อารันคาร์ที่เหลือจึงเข้าปะทะกับหน่วยที่ 2 8 10 และ 13 ซึ่งทุกคนก็เข้าปะทะด้วยความยากลำบาก โดยที่หน่วย 10 ปะทะกับพวกฮาริเบล โดยฮิซึกายะ สู้กับ ฮาริเบล และปล่อบให้รันงิคุ สู้กับอาปาช มิลาโรส และ ซุนซุน ส่วนหน่วยที่ 2 ได้เข้าสู้กับลูกน้องของบารากัน โดยที่สุดท้ายก็สามารถเอาชนะลูกน้องของบารากันได้อย่างไม่ยากเย็น ส่วน ชุนซุย และ อุคิทาเกะ ได้ต่อสู้กับสตาร์ค โดยที่ชุนซุยขอสู้กับสตาร์ค และให้อุคิทาเกะคอยดูแล ลิลิเน็ตซึ่งเป็นฮอลโลว์เด็กที่สตาร์คพามาด้วย และฉากได้ตัดมาที่ รันงิคุ สู้กับลูกน้องของฮาริเบล โดยด้วยเหตุที่ว่า 3-1 ทำให้รันงิคุไม่อาจต้านมานได้ แล้วใกล้จะเสียท่า แต่แล้วฮินาโมริจึงแอบหลบหนี้จากโซลโซไซตี้ แล้วมาช่วยรันงิคุได้ทัน ทั้ง2ช่วยกันสู้ได้สูสีกับลูกน้องของฮาริเบล แต่แล้วอาปาช มิลาโรส และ ซุนซุน ก็ได้ปลดปล่อยดาบของ ตน และได้แสดงความสามารถของตนออกมา เป็นการตัดแขนซ้ายของทั้ง 3 มารวมกันกลายเป็นปีศาจ ขนาดใหญ่ที่มีร่างกายบึกบึน ซึ่งปีศาจตนนีได้เข้าจู่โจมรันงิคุอย่างรวดเร็วจนรันงิคุตั้งตัวไม่ทันการ โจมตีนี้ทำให้ท้องทางซีกขวาของรันงิคุถูกฉีกไป เมื่อฮินาโมริเห็นรันงิคุในสภาพปางตาย จึงได้ใช้วิธีมารช่วยเอาไว้ แต่แล้วเจ้าปีศาจกลับเข้ามาโจมตีฮินาโมริจนแทบหมดสภาพที่จะสู้ต่อ แต่แล้วคิระ และ ชูเฮย์ ก็ได้เข้ามาช่วยไว้ทัน ชูเฮย์เข้าปะทะกับเจ้าปีศาจแต่ก็สู้ไม่ได้ ส่วนคิระก็กำลังหาทางช่วย รันงิคุอยู่ แต่แล้วหัวหน้ายามาโมโตะ ก็เข้ามาช่วยไว้และปลดปล่อยขั้นต้นเข้าสังหาร ปีศาจตนนี้ได้อย่างง่ายดาย และจังหวะนั้นเอง อาปาช มิลาโรส และ ซุนซุนได้เข้าโจมตีหัวหน้ายามาโมโตะจากด้านหลัง แต่แล้วพริบตานั้นดาบเพลิงของหัวหน้ายามาโมโตะได้สร้างเปลวเพลิงขนาดยักษ์ ออกมา เผาผลาญอารันคาร์ทั้ง 3 ให้สิ้นชีพในพริบตา ฮาริเบลที่กำลังต่อสู้อยู่กับฮืซึกายะจึงเริ่มเอาจริงขึ้นมา เพราะความเสียใจที่ตนเสียลูกน้องไป โดยขณะนั้นฮาริเบลได้เปิดเสื้อให้ฮิซึกายะดู ซึ่งสิ่งที่เห็นคือ หน้ากากฮอลโลว์ตั้งแต่ปากจนถึงหน้าอก และหมายเลข 3 ที่บริเวณหน้าอกข้างขวา และแล้วด้วยความโกรธฮาริเบลจึงพุ่งเข้าจู่โจมฮิซึกายะอย่างรวดเร็ว ฮิซึกายะเห็นท่าไม่ดี จึงปลดปล่อยสวัสดิกะเข้าสู้ โดยการตวัดดาบเพียงครั้งเดียวของฮาริเบล ทำให้ปีกอันแข็งแกร่งของไดงูเร็น เฮียวรินมารุ ทลายลงไปกว่าครึ่ง และฉากตัดมาที่ สตาร์คกับชุนซุย โดยสคาร์คบอกว่าอาริเบลเป็นหมายเลข 3 ที่แกร่งที่สุด และยังบอกต่อว่าบารากันผู้ที่คอยสั่งการอยู่นั้นก็ไม่ใช่หมายเลข 1 แต่แล้วชุนซุยก็ถามสตาร์คว่า "แล้วเจ้าละหมายเลขอะไร" สตาร์คจึงชูหมายเลขที่อยู่หลังมือซ้ายให้ดู ซึ่งหมายนั่นคือ "หมายเลข 1 "
ที่ ฮูเอโก้มุนโด้ อิจิโกะ ได้ทะลวงสู่ปราสาท ลาส์นอเช่ แต่แล้วก็มีเหล่ามือล่าสังหารเข้าโจมตีอิจิโกะ ทว่า เร็นจิ ลูเคีย แช็ด และ อิชิดะ ก็เข้ามาช่วยจัดการแทน จึงทะลวงเข้าปราสาทได้สำเร็จ แล้วเข้าปะทะกับ อุลคิโอร่า อีกครั้ง เมื่อเข้าต่อสู้กัน อิจิโกะสามารถทำเสื้อของอุลคิโอร่าขาด และเมื่ออิจิโกะเพลี้ยงพลั้ง โอริฮิเมะ ได้ใช้ 6 บุปผาเข้าป้องกันอิจิโกะ หลังจากนั้นอุลคิโอร่าก็ถามว่าทำไมต้องปกป้องอิจิโกะด้วย โอริฮิเมะจึงบอกว่าเพราะความเป็นเพื่อนยังไงเล่า ต่อมา อารันคาร์ผู้หญิง2ตน ที่โดนกริมจอว์ฆ่า แล้วโอริฮิเมะฟื้นคืนชีพให้ก็กลับเข้ามาบอกว่า "ไอเซ็นใช้ประโยชน์จากเธอหมดแล้ว ตอนนี้ฉันจะทำอย่างไรกับเธอก็ได้"และเข้าทำร้ายโอริฮิเมะ อิจิโกะก็ไปช่วยแต่อุลคิโอร่ามาขวาง เมื่อต่อสู้ไปเรื่อยๆ ยามี่ เอสปาด้าหมายเลข 10 ก็โผล่เข้ามาช่วยอุลคิโอร่า และขอเป็นคนกำจัดอิจิโกะด้วยตนเอง แต่อุลคิโอร่าไม่อนุญาต และเมื่อยามี่หันมา ก็เจออารันคาร์ผู้หญิงสองคนกับโอริฮิเมะ อารันคาร์ตนหนึ่งที่เป็นผู้หญิงผมสั้น โดนยามี่ตบด้วยหลังมือจนกระเด็นไปติดกำแพงและยามี่ก้อหันมาจะจับอารันคา ร์อีกตน แต่เทอก้อเอาดาบประจำตัวของตนเอง ออกมาฟันมือยามี่ และได้ปลดปล่อยดาบออกมา และโจมตียามี่และบอกว่าที่มาที่นี่เพื่อต้องการจะฆ่ายามี่ และอุลคิโอร่าและได้ต่อสู้กัน ต่อมาอารันคาร์ผู้หญิงก้อเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำต่อยามี่ และโดนยามี่ปล่อยลงไปข้างล่าง และเมื่อหันหลังกลับมาเพื่อถามอุลคิโอร่าว่า"จะให้ฆ่าผู้หญิงคนนี้เลยหรือ ปล่าว" อุลคิโอร่ายังไม่ทันตอบอิจิโกะก็บอกว่าเดี๋ยว และทันใดนั้นก็มีลูกธนูพุ่งมาเสียบหลังยามี่ และนั่นเป็นลูกธนูของอิชิดะนั่นเอง อิชิดะได้ใช้ยาพิษ ที่มายูริให้มา ใช้โจมตีใส่ยามี่ซะ จากนั้นอิชิดะก็ปล่อยให้อิจิโกะvsอุลคิโอร่าต่อ อิจิโกะจึงปล่อยหน้ากากฮอลโลว์เมื่ออุลคิโอร่าเห็นจึงออกนอกวัง อีกด้านหนึ่งลูเคียก็ต่อสู้กับหัวหน้าหน่วยเอกซ์ซีคิว อุลคิโอร่าจึงปลดปล่อยดาบ"จงพันธนาการ มูรเซียร์เอลาโก้" และได้ต่อสู้กันสักพักจนในที่สุดอุลคิโอร่าก็ได้ปลดปล่อย "รีเซอเรคเชี่ยน เซกันด้า" (ถ้าเปรียบกับยมทูตก็คือบังไค) ร่างที่แท้จริงของเขาเป็นคล้าย ๆ ค้างคาวและลักษณะก็คล้ายวาสโทรเด้ซะด้วยและเขาก็ได้ปล่อยBlack cero(แบล็ค ซีโร่)ใส่อิจิโกะทำให้หน้ากากฮอลโลว์แตก อิจิโกะอยู่สภาพน่วม อิจิโกะลุกขึ้นสู้กับอุลคิโอร่าโดยปล่อยหน้ากากฮอลโลว์อีกรอบแต่ก็ถูกอุลคิ โอร่าทำหน้ากากแตกอีก และเจาะรูที่หน้าอกอิจิโกะอุลคิโอร่าจะสังหารอิจิโกะอิชิดะก็มาช่วยแต่ถูกอุ ลคิโอร่าซัดแขนขาด โอริฮิเมะก็รักษาอิจิโกะ อุลคิโอร่าจึงทำลายโล่ของโอริฮิเมะ เธอจึงร้องให้อิจิโกะช่วย ทันใดนั้นผมของเขาก็ยาวขึ้นอย่างผิดปกติ และภายในร่างไร้สติของเขาอิจิโกะก็ได้ยินเสียงหนึ่งผ่านหูว่า “ช่วยด้วย ช่วยฉันด้วย...อิจิโกะ” และเขาก็ได้พูดกับตัวเองว่า “เธอเรียกฉัน ๆ...ฉันได้ยิน ลุกขึ้นๆ ฉันจะปกป้องเธอ” ทันใดนั้นฮอลโลว์ในร่างของเขาก็ตื่นขึ้น เขาลุกขึ้นมาพร้อมหน้ากากฮอลโลว์รูปแบบใหม่ ซึ่งมีเขาอยู่ทั้งสองข้างของหน้ากาก ทุกคนประหลาดใจมาก อิชิดะจึงเรียกเขา “คุโร...ซากิ” อุลคิโอร่าจึงบอกว่า “เป็นไปไม่ได้...เขาไม่น่าจะยังอยู่นี่ นั่นมันอะไร นายเป็นใคร” แล้วอิจิโกะก็เรียกดาบกลับเข้ามาในมือ และสลัดดาบออกไปด้านข้างลำตัว แรงลมที่อิจิโกะสลัดดาบออกไปนั้น ทำให้พื้นดินที่โดนแรงลมนั้นถึงกับทลายลงไป และแรงลมนั้นก็ทำให้อิโนะอุเอะปลิวออกไปเช่นกัน แต่อิชิดะก็จับเอาไว้ได้ และอุลคิโอร่าก็ได้พูดอีกว่า “นายได้ยินฉันมั้ย...ฉันถามว่านายเป็นใคร” หลังจากนั้นฮอลโลว์อิจิโกะก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่ง และอุลคิโอร่าก็พูดว่า “ดูเหมือนว่า...คำพูดคงใช้ไม่ได้ผลสินะ” และอุลคิโอร่าก็กำลังจะปล่อยซีโร่(Cero)ใส่อิจิโกะ แต่ว่าเขาก็ก้มหัวลงมาและซีโร่(Cero)ก็กำลังก่อตัวขึ้นระหว่างเขาทั้งสอง ข้างนั้น สร้างความประหลาดใจให้แก่อุลคิโอร่าเป็นอย่างมาก และเขาก็ได้ปล่อยซีโร่(Cero)ใส่อุลคิโอร่าแต่ว่าอุลคิโอร่าก็หลบได้ และเขาก็พูดว่า “เป็นไปไม่ได้...นั่นเป็นซีโร่(Cero)ที่มีพลังเป็นประสิทธิภาพที่จะทำลายทุก สิ่งเลยนะนั่น” และเขาก็พูดต่ออีกว่า “มันไม่จริง...ถึงพลังจะดูเหมือนฮอลโลว์มากก็เถอะ...แต่ว่ามนุษย์ก็ไม่น่าจะ ปล่อยซีโร่(Cero)ได้นี่” หลังจากนั้นอิจิโกะก็ใช้ก้าวพริบตามาข้างหลังของอุลคิโอร่า แต่ว่าเขาก็จะใช้มือปัดอิจิโกะให้ออกไปไกล ๆ แต่ว่าอิจิโกะก็ใช้มือของเขาจับข้อมือของอุลคิโอร่า และเขาก็กระชากแขนอุลคิโอร่าจนขาดออกมาจากลำตัว อิโนะอุเอะจึงพูดว่า “ไม่มีทาง” อิชิดะจึงพูดขึ้นมาว่า “มันไม่ใช่...นั่นๆ เป็นคุโรซากิจริง ๆ หรอ” แล้วอุลคิโอร่าก็เข้าต่อสู้กับอิจิโกะจนสุดท้ายอุลคิโอร่าต้องพ่ายแพ้ลง แต่เมื่ออุคิลโอร่าต้องนอนหมดสภาพอยู่นั้น อิจิโกะในร่างฮอลโล่ก็จะใช้ดาบฟันวิญญาณในมือแทงอุคิลโอร่าซ้ำ อิชิดะจึงเข้ามาห้ามเอาไว้ แต่ก็ถูกอิจิโกะนั้นใช้ดาบแทงทะลุร่างจนกระเด็นออกไป อิจิโกะในร่างฮอลโล่ใช้ซีโร่(Cero)เล็งไปที่อิชิดะ แต่แล้ว อุคิลโอร่าก็ลุกขึ้นมาโจมตีเข้าที่หลังของอิจิโกะทำให้ซีโร่(Cero)นั้นถูก ยิงขึ้นบนฟ้าและระเบิดออกและอิจิโกะก็ได้สติกลับคืนมา และอุคิลโอร่าก็สลายหายไปพร้อมกับความข้องใจในสิ่งที่เรียกว่า "หัวใจ" ตัดไปทางพวกเร็นจิ และลูเคียที่พึ่งชนะจากหัวหน้าหน่วยเอ็กซีคิวส์(หน่วยล่าสังหาร) ยามี่ก็ได้โผล่ออกมาและปลดปล่อยดาบแล้วบอกว่าตัวมันเองเป็นเอสปาด้าหมายเลข0 แล้วยังบอกอีกว่าเอสปาด้ามีหมายเลข0-9ทำให้พวกเร็นจิถึงกับอึ้งเลยทีเดียว ตัดไปทางพวกโซลโซไซตี้ฮิซึกายะก็เกือบตายเพราะฮาริเบลปลดปล่อยดาบด้วยการ ตวัดเพียงครั้งเดียวทำให้ร่างขาดเป็นสองท่อน แต่นั่นคือวิชาลวงตาของฮิสึกายะด้วยร่างน้ำแข็ง และฮิสึกายะก็พูดว่า"อย่าดูถูกยมทูตให้มากนัก" ด้านซุยฟงที่กำลังสู้กับบารากันก็ได้เห็นการปลดปล่อยดาบของบารากัน บารากันก็ค่อยๆอัดซุยฟงไปเรื่อยๆและใช้พลังของการปลดปล่อยดาบของเขาทำให้แขน ซ้ายของซุยฟงเหลือแต่กระดูกและต้องตัดทิ้งไป จากนั้นซุยฟงก็ให้ก็มีแผนการจึงให้โอมาเอดะไปล่อบารากันให้ แต่ซุยฟงกลับหายตัวไปโดยทิ้งโอมาเอดะรับกรรมเป็นตัวล่อให้บารากันไปซักพัก ขณะที่ฮาริเบลและอิซิกะยะนั้นก็สู้กันได้อย่างดุเดือด ต่างฝ่ายต่างหาโอกาสที่โจมตีศัตรู และฮิสึกายะก็ได้ใช้พลังที่ไม่เคยใช้มาก่อนนั่นคือ "เฮียวเท็นเฮียกกะโซ" ที่สร้างน้ำแข็งจากอากาศและแช่ศัตรูภายในดอกไม้น้ำแข็งร้อยดอกทำให้ ฮาริเบลถูกแช่ไว้ในเสาน้ำแข็งนั้น ตัดมาทางด้านซุยฟง ขณะที่โอมาเอดะนั้นวิ่งหนีบารากันไปเรื่อย ๆ ซุยฟงก็ได้เตรียมการบางอย่างเสร็จสิ้นพร้อมที่จะต่อสู้ และซุยฟงหัวหน้าหน่วยที่ 2 นั้นก็ได้กล่าวคำว่า "บังไค" ซึ่ง บังไค นั้น คล้ายกับปืนยิงวิถีมารที่มีพลังรุนแรงมาก ทำให้บารากันพลาดท่าได้ แต่แรงระเบิดทำให้ ซุยฟง กระเด็นไปด้วย แต่ว่า โอมาเอดะ ก็มารับไว้ ซุยฟง บอกว่า เจ้าทำได้ดีแล้ว ตัดไปทางเคียวราคุ สตาร์คได้คิดจะปลดปล่อยดาบโดยใช้ตนเองรวมร่าง กับ ลิลิเน็ต (ลูกน้อง)จึงกลายเป็นร่างปลดปล่อยที่แท้จริงได้ในที่สุด จากนั้นเคียวราคุและสตาร์คได้ต่อสู้กัน จากนั้นไม่นานวันเดอร์ไวซ์ได้โผล่ออกมาจากประตูการ์กานตาพร้อมกับยักษ์ ฮอลโลว์ขนาดมหึมา พร้อมกับจู่โจมหัวหน้าหน่วยอุคิทาเกะและปลดปล่อยฮาริเบลจากเสาน้ำแข็ง และทำให้ไอเซ็นหลุดจากพันธนาการป้อมปราการเพลิงที่หัวหน้ายามาโมโตะได้ใช้ กักขังไอเซ็นไว้ หลังจากนั้นสตาร์คก็ฉวยโอกาสยิงceroใส่เคียวราคุ และในวินาทีที่ทุกสิ่งดูเหมือนจะสิ้นหวังไปหมด แสงแห่งปาฏิหารย์ก้เหมือนจะฉายแสงอีกครั้งพร้อมกับการมาถึงของเหล่าไวเซิร์ด โดยเหล่าไวเซิร์ดได้ทำการต่อสู้กับเหล่าespadaแทน โดยฮัดจิได้ต่อสู้กับบารากันแทนซุยฟง แต่ก็ไม่สามารถเอาชนะบารากันได้จึงได้ร่วมมือกับซุยฟงจนในที่สุดก็เอาชนะบา รากันได้ ถัดมาที่อีกคู่คือคู่ของโรสกับเลิฟได้สู้อยู่กับสตาร์คที่อยู่ในสภาพปลด ปล่อย โดนเลิฟได้ทำการจู่โจมก่อนจนสตาร์คบาดเจ็บ จากนั้นลิลิเน็ตได้เตือนสตาร์คว่า"เหตุใดไอเซ็นถึงตั้งสตาร์คเป็นespada เบอร์1" จากนั้นสตาร์คจึงได้ทำการปลดท่าไม้ตาย"สุนัขป่าร้อยบุปผา"ออกมาใช้จนเลิฟและ โรสต่างสู้ไม่ได้ทั้งคู่ แต่ทันใดนั้นเองเคียวราคุได้ฉวยโอกาสแทงดาบเข้าข้างหลังสตาร์ค พร้อมแสดงความสามารถอีกอย่างของ คะเท็นเคียวคสึ (ไม่ใช่บังไค แต่เป็นความสารถของดาบอีกอย่างนึงเท่านั้น) โดยดาบของเคียวราคุมีความสามารถในการเลือกที่จะจู่โจมคู่ต่อสู้ได้เฉพาะสี ที่ตนเองเลือกบนตัวศัตรูเท่านั้น หลังจากที่ทั้งคู่ห้ำหั่นกันได้สักครู่สตาร์คก็คิดถึงความหลังของตัวเองว่า ตัวเองต้องอยู่อย่างเดียวดาย(เนื่องจากสัญลักษณ์ของสตาร์คนั้นเป็นความเดียว ดายอ้างว้าง-ต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว) แต่สตาร์คก็นึกขึ้นได้ว่าตัวเองมีลิลิเน็ตหลังจากที่ไอเซ็นได้ใช้โฮเงียคุ แยกร่างจริงออกเป็นสองร่าง(โดยปกติเมื่อฮอลโลว์กลายเป็นอารันคาร์แล้วจะแยก ร่างจริงออกเป็นร่างธรรมดากับดาบผ่าวิญญาณ แต่ในกรณีของสตาร์คกลับกลายเป็นร่างสองร่างแทน) และในวินาทีแห่งความเป็นความตายเคียวราคุฉวยโอกาสที่สตาร์คจู่โจมพลาด ฟันผ่านร่างของสตาร์ค จนในที่สุดร่างของเอสปาด้าที่เก่งที่สุดในกองทัพของไอเซ็นก้ร่วงลงจากฟ้า ตัดมาทางฮาริเบลที่กำลังสู้อยู่กับฮิสึกายะ,ลิซ่าและฮิโยริ ในวินาทีชั่วพริบตาไอเซ็นปรากฏกายข้างหน้าฮาริเบล พร้อมกับพูดว่า"เจ้าหมดประโยชน์ต่อข้าแล้ว"จากนั้นได้สังหารฮาริเบลทิ้ง พร้อมกับประกาศให้เหล่า 13หน่วยพิทักษ์และไวเซิร์ดทั้งหลายเข้าจู่โจมตนเองได้เลย ตัดมาที่ฮูเอโก้ มุนโด ยามี่ที่ได้ทำการปลดปล่อยร่างจริงออกมานั้นเอาชนะเร็นจิและชาโดว์ได้อย่าง ง่ายดายพร้อมกับบีบตัวลูเคียอยู่ ในมือข้างหนึ่งแต่ในวินาทีที่ยามี่กำลังจะบดขยี้ลูเคียนั้น ก็ได้มีร่างๆหนึ่งปรากฏกายขึ้นเขาผู้นั้นคือ อิจิโกะ โดยอิจิโกะได้สุ้กับยามี่แต่ก็ไม่สามารถที่จะเอาชนะยามี่ได้(โดยเกิดความผิด ปกติขึ้นกับหน้ากากฮอลโลว์ของอิจิโกะ อิจิโกะเรียกหน้ากากออกมาไม่ได้)จากนั้นเบียคุยะและเค็มปาจิจึงได้เข้ามา ช่วยอิจิโกะไว้พร้อมกับให้หัวหน้ามายูริส่งอิจิโกะและหัวหน้าอูโนฮานะกลับไป ที่โลก โดยระหว่างทางที่กลับไปโลก หัวหน้าอูโนฮานะจึงได้เล่าให้อิจิโกะฟังว่า ในตอนนี้ทุกคนใน13หน่วยพิทักษ์และเหล่าไวเซิร์ดทุกคนต่างได้เห็นสภาพการปลด ปล่อยดาบของไอเซนหมดแล้วจึงไม่มีทางที่จะชนะไอเซนได้ และในตอนนี้อิจิโกะเป็นคนเดียวที่สามารถเอาชนะไอเซ็นได้เนื่องจากเขายังไม่ เคยเห็นสภาพปลดปล่อยดาบของไอเซนนั้นเอง ตัดกลับมาที่โลกฮิโยริได้พุ่งเข้าไปจู่โจมไอเซนแต่ก้พลาดท่าเสียที่ต่องิน ที่ปลดปล่อยชิไคพุ่งดาบระยะยาวมาตัดกลางลำตัวของฮิโยริ จากนั้นชินจิจึงได้ท่าสู้กับไอเซ็นเอง มาที่คู่ของมาชิโระกับวันเดอร์ไวซ์ ทั้งสองได้ฟาดฟันกันอย่างดุเดือดแต่จากนั้นไม่นานหน้ากากไวเซิร์ดของมาชิโระ ก็ได้แตกออก แล้ววันเดอร์ไวซ์ก็ได้จู่โจมจนมาชิโระเพลี้ยงพล้ำจากนั้น เคนไซย์จึงได้ยืนมือเข้ามาช่วยไว้และได้เข้าจู่โจมวันเดอร์ไวซ์ในสภาวะปลด ปล่อยบังไค ขณะนั้นโคมามูระได้ทำการสู้กับโทเซ็นพร้อมกับฮิซางิ เกือบจะเพลี่ยงพล้ำโทเซ็นที่อยู่ในสภาพรีเซอร์เร็คชั่น แต่ก็ได้ฮิซางิมาอาศัยจังหวะที่โทเซ็นประมาทและสังหารโทเซ็น หลังจากที่ฮิราโกะได้ตัดสินใจที่จะต่อสู้กับไอเซ็นจึงได้ปลดปล่อยดาบสภาพชิ ไค โดยความสามารถของชิไคของชินจิคือการสลับสัมผัสการรับรู้ของคู่ ต่อสู้(ซ้าย-ขวา,หน้า-หลัง,บน-ล่าง ร่วมถึงทิศทางการจู่โจม) เนื่องจากความประมาทของไอเซนทำให้ฮิราโกะสามารถฟันแขนข้างซ้ายของไอเซนได้ เล็กน้อย หลังจากนั้นประตูการ์กานตาก็เปิดออกนำมาซึ่งความหวังเพียงสิ่งเดียวที่จะเอา ชนะไอเซ็นได้ซึ่งก้คือ คุโรซากิ อิจิโกะ พออิจิโกะพุ่งตัวออกมาจากประตูมิติการ์กานตาแล้ว ได้ปล่อยเขี้ยวจันทราทะลวงสวรรค์ที่ท้ายคอของไอเซน แต่ไอเซนก็ได้สร้างเกราะขึ้นมาป้องกันไว้ พร้อมกับคาดเดาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมดในฮูเอโก้ มุนโดได้อย่างแม่นยำ พร้อมกับกล่าวยั่วยุว่า หากอิจิโกะขาดความเคียดแค้นชิงชังแล้วหล่ะก็ ไม่สามารถที่จะชนะไอเซนได้ จากนั้นหัวหน้าหน่วยต่างๆเข้ามาช่วยอิจิโกะโดยการร่วมมือกับไวเซิร์ดจู่โจม ไอเซนเพื่อให้อิจิโกะศึกษาหาช่องโหว่ของไอเซนให้เจอ หัวหน้าหน่วยทั้งหมดรวมทั้งเหล่าไวเซิร์ดพยายามเข้าต่อกรกับไอเซ็นแต่ก็ทำ อะไรไอเซ็นไม่ได้เลย ฮิทสึกายะซึ่งพยายามต่อสู้กับไอเซ็นอย่างสุดกำลัง สามารถหาจังหวะจู่โจมไอเซ็นได้จึงใช้บังไคของเขาแทงไปกลางหน้าอกของเขา ทุกคนเมื่อเห็นดังนั้นจึงดีใจ แต่ไม่นานหลังจากไอเซ็นโดนแทง โมโม่ซึ่งกำลังบาดเจ็บอยู่ก็ลุกขึ้นมา แล้วร่างก็เปลี่ยนไปเป็นไอเซ็น ส่วนร่างที่ฮิทสึกายะแทงก็กลายเป็นโมโม่ ฮิทสึกายะและทุกคนเห็นดังนั้นจึงโกรธไอเซ็นอย่างแรงและทั้งหมดเข้าจู่โจมไอ เซ็นด้วยความโกรธ แต่ไอเซ็นบอกว่า เขาเบื่อที่จะเล่นแล้ว จึงตวัดดาบฟันทุกคนในพริบตา อิจิโกะเห็นดังนั้นจึงยืนงงอยู่ชั่วครู่หนึ่ง ไม่นานยามาโมโตะปรากฏตัวและต่อสู้กับไอเซ็น ต่อมาไม่นานนัก วันเดอร์ไวซ์ ได้มาจู่โจมยามาโมโตะ และปิดผนึกความสามารถของดาบฟันวิญญาณไป ทำให้ยามาโมโตะ ไม่สามารถใช้เปลวเพลิงได้ แต่ท้ายที่สุดยามาโมโตะก็สามารถจัดการกับวันเดอร์ไวซ์ได้อย่างง่ายดาย แต่ทั้งหมดนั้นเป็นแผนลวงของไอเซ็น ทำให้ยามาโมโตะเสียท่ากับพลังเปลวเพลิงของตนที่ถูกปิดผนึกไว้ เมื่อไอเซ็นเดินมาใกล้และหมายจะสังหารยามาโมโตะ ไอเซ็นก็ถูกยามาโมโตะใช้วิถีมารจัดการทำให้บาดเจ็บ และพริบตาที่ไอเซ็นกระโดดออกมาจากรัศมีวิถีทำลาย อิจิโกะก็กระโดดมาและใช้ getsuga tenshou โจมตีใส่ไอเซ็นจนบาดเจ็บ แต่ไอเซ็นได้ใช้พลังของโฮเงียคุฟื้นฟูตนเองได้ และพูดว่าตนนั้นรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับอิจิโกะเหมือนอยู่ในกำมือของตน อิจิโกะรู้สึกสับสนมาก จนทำอะไรไม่ถูก แต่แล้ว อิชชิน พ่อของอิจิโกะก็ปรากฏตัวมา และได้ทำการต่อสู้กับไอเซ็น ส่วนอิจิโกะแยกออกไปจัดการกับงิน งินได้ปลดปล่อยดาบของตน ซึ่งดาบของงินสามารถยืดได้ไกลราวๆ 13 km และสามารถโจมตีได้เร็วที่สุดอีกด้วย อิจิโกะจึงเจองานหนักเข้าให้ แต่ก็สวนกลับงินบาดเจ็บได้ทีนึง ส่วนด้านอิชชิน-ไอเซ็นได้สู้กัน อิชชินได้เปรียบในการต่อสู้มากอย่างเห็นได้ชัด แต่แล้วไอเซ็นก็บอกอิชชินว่า ตนได้ถึงขีดจำกัดของยมทูตแล้ว และก็อธิบายความสามารถของโฮเงียคุที่สามารถทำให้สิ่งต่างๆเกิดเป็นรูปร่าง ขึ้นมาได้ ทันใดนั้นอิจิโกะได้ถูกงินซัดดาบใส่กระเด็นมาบริเวณอิชชินพอดี และอิจิโกะได้เถียงกับอิชชินเล็กน้อย ก่อนที่โฮเงียคุจะแผลงฤทธิ์ออกมา แต่แล้วก่อนที่ไอเซ็นจะใช้พลังโฮเงียคุนั้น ก็ถูกยิงลำแสงทะลุอกออกมา ทำให้ไอเซ็นถึงกลับตกใจ แต่ก็ไม่วายหันหลับไปดู และแล้ว อุราฮาระ คิสุเกะ ก็ปรากฏกายพร้อมกับดาบฟันวิญญาณที่หันคมดาบมายังไอเซ็นศัตรูคู่แค้นอีก ด้วย...

[แก้] เบาท์

เบาท์ (Bount) เป็นคาแร็กเตอร์ที่ปรากฏเฉพาะในอะนิเมะ เป็นเผ่าพันธุ์ที่ถือกำเนิดขึ้นจากความผิดพลาดในการทดลองสร้างชีวิตนิรันดร์ ของกองวิทยาการแห่งโซลโซไซตี้ (ซึ่งผู้ที่เป็นหัวหน้าการทดลองในครั้งนั้นคือ ยมทูตหญิงชื่อ Ran Toa) วิญญาณ ที่หลุดรอดไปที่โลกมนุษย์ในตอนนั้นจึงเกิดเป็นเบาท์ ซึ่งมีชีวิตที่ยืนยาวจากการดูดกินวิญญาณมนุษย์ที่เสียชีวิตแล้วเป็นอาหาร และสามารถต่อสู้ได้โดยใช้ "ดอลล์" ซึ่งคล้ายคลึงกับการใช้ดาบฟันวิญญาณของยมทูต และมีความสามารถหลากหลายกันไป แต่เมื่อดอลล์ตาย บาวด์ที่เป็นเจ้าของก็จะต้องตายตามไปด้วยเช่นกัน แม้เบาท์จะเกิดในฐานะเผ่าพันธุ์หนึ่ง แต่ก็ไม่มีความสามารถในการสืบเผ่าพันธุ์ จำนวนของเผ่าพันธุ์จึงถูกจำกัดไว้มาตั้งแต่แรกอย่างไม่อาจจะเพิ่มขึ้นได้ เลย
เมื่อเริ่มต้นของภาคนี้ มีวิญญาณดัดแปลงที่เป็นผลงานของ อุราฮารา คิสึเกะ เข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากในการค้นหาที่อยู่ของพวกเบาท์ โดย ทั้ง 3 คนปรากฏตัวครั้งแรกก่อนบาวด์ (ในบททดสอบของอุราฮาระ) หลังจากนั้นเพื่อให้ทั้งสามทำหน้าที่เตือนพลังกดดันวิญญาณของเบาท์ จึงนำเม็ดวิญญาณ (เม็ดวิญญาณ หรือ ม็อดโซล) ใส่ในตุ๊กตาทำให้สามารถพกพาได้ง่าย
โดยคนที่ไปช่วยอิจิโกะค้นหาพลัง ของบาวด์คือ ริริน เป็นเด็กผู้หญิงจอมอวดดีมีความสามารถในการสร้างภาพลวงตา ริรินอยู่ในตุ๊กตานกสีเหลืองหน้าตาประหลาด คนที่ไปช่วยชาโด้ คือ โนบะ เป็นคนที่มีนิสัยขรึมๆเงียบๆไม่ค่อยพูดมีความสามารถในการวาปสิ่งต่างๆให้หาย ไปโดยถ้าอยู่ในร่างตุ๊กตาจะสามารถวาปได้ 2 เมตร โนบะอยู่ในตุ๊กตาหัวสีเขียวๆ ไม่มีปาก คนที่อยู่กับอิโนะอุเอะ โอริฮิเมะ คือ คุโรโดะ เป็นผู้ชายแก่ๆ ออกท่าทางทะลึ่งหน่อยมีความสามารถในการเปลี่ยนร่างเป็นคนอื่น คุโรโดะ อยู่ในตุ๊กตาคล้ายกระต่ายมีสายสะพาย (โอริฮิเมะและคุจิกิชอบเพราะคล้ายกระต่ายจั๊ปปี้)
เมื่อพวกเบาท์ปรากฏตัว มีหัวหน้าชื่อว่า "คาริยะ จิน" จุดประสงค์ของ จิน ในตอนแรกคือการตามล่าตัว พรตปราบมาร (ควินซี่) ซึ่งก็คือ อิชิดะ อุริว โดยมีลูกน้องอีก 9 คน
ใน พวกบาวด์มียมทูตอยู่ด้วยคนหนึ่งชื่อ มากิ อิชิโนเสะ ยาจิรุเรียก มากิจัง ซึ่ง มากิเคยอยู่ในหน่วยที่ 11 มากิลาออกจากหน่วยที่ 11 เพราะว่าซาราคิ เคมปาจิ ฆ่าหัวหน้าหน่วยที่ 11 คนก่อนแล้วเป็นหัวหน้าแทน(คือการที่สู้กันเพื่อชิงตำแหน่งหัวหน้าโดยมียมทูต200คนเป็นพยาน)
แต่ มีบาวด์ คนหนึ่งที่ไม่ได้เป็นพวกของคาริยะ นั้นคือ "โยชิโนะ โซมะ" เป็นผู้หญิง ผมยาวสีน้ำตาล ซึ่ง โยชิโนะ เป็นอดีตคนรักของคาริยะ เธอยื่นมาเข้ามาช่วยเหลือ อิชิดะ เสมอ เธอมีดอลล์ชื่อว่า เกเต้ เป็นดอลล์ธาตุไฟ แม้ว่าอิชิดะ และโยชิโนะ ได้มีโอกาสอยู่ใกล้ชิดกันไม่นาน แต่อิชิดะรู้สึกผูกพันกับเธอมาก และคิดว่าเป็นคนที่มีรอยยิ้มคล้ายกับแม่ของเขาคือมีรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความ เศร้า สุดท้ายเธอเสียชีวิตด้วยน้ำมือของ คาริยะ จิน เพราะเธอต้องการจะหยุดการกระทำของเขา และเนื่องจากโยชิโนะ มีพลังแห่งความเป็นแม่ คาริยะ จึงใช้โอกาสตอนที่วิญญาณของเธอกำลังสลาย สร้างผลผลิตบางอย่างขึ้นมาในตอนนั้น เพื่อทำการบางอย่าง โดยถูกเรียกว่า Bitto
ในอดีตพวกเบาท์จะดูดกินวิญญาณของมนุษย์ที่เสียชีวิตแล้วเท่า นั้น แต่หลังจากพวกเบาท์คิดทำการใหญ่ จึงเริ่มดูดกินวิญญาณของมนุษย์ที่ยังมีชีวิตอยู่โดยการใช้ Bitto ไปดูดกินพลังวิญญาณของมนุษย์มาให้พวกตน ได้ดื่มกินอย่างง่ายดาย ซึ่งเนื่องจากเหตุการณ์นี้ จึงทำให้พวกอิจิโกะ ต้องบุกสู่รังของเหล่าเบาท์ โดย อิชิดะ ที่สูญเสียพลัง ก็ได้พลังคืนมา ด้วยฝีมือของ คุโรซึจิ เนม ที่นำของจากกองวิทยาการมาให้ และเมื่อถึงห้องสุดท้าย อิชิดะ ได้ใช้ธนู ยิงผ่าเข้ามิติสู่โซลโซไซตี้ พวกเบาท์ที่เหลืออีก 5 คน จึงได้เข้าสู่โลกของยมทูตอีกครั้ง
ต่อมา อิจิโกะ ลูเคีย แช็ด อิชิดะ โอริฮิเมะ คุณโยรุอิจิ และ พวกริรินทั้ง 3 ก็ตามไป และที่โซลโซไซตี้ หัวหน้าใหญ่ได้รู้ว่า เบาท์โผล่เข้ามา ก็ทราบว่า คาริยะ ต้องการพลังที่มีในโซลโซไซตี้ และใช้พลังนั้น ทำลายเซร์เรย์เทย์ซะ จึงสั่งให้ทุกหน่วยรีบจัดการ โดย ซุยฟง มายูริ ซาราคิ และ ฮิซึกายะ สามารถจัดการเบาท์ได้ ส่วนคาริยะที่ได้พลังมา ก็เข้าปะทะกับอิจิโกะ สุดท้ายชัยชนะก็ตกอยู่ในกำมือของ คุโรซากิ อิจิโกะ

[แก้] ภาคดวงจิตแห่งศาสตรา

เรื่องเริ่มขึ้นเมื่อ มุรามาสะ ผู้อ้างว่าตัวเองเคยเป็น ดาบฟันวิญญาน มาก่อนและได้มายื่นขอเสนอให้กับเหล่าดาบผ่าวิญญาณทั้งหลายในเซเรย์เทย์ ไม่ว่าจะเป็น ซาบิมารุของอาบาราอิ เร็นจิ หรือ เซมบงซากุระ ของคุจิกิเบียคุยะ รวมถึงคนอื่นๆ โดยได้ยื่นขอเสนอว่า ถ้าช่วยเขาแก้แค้นยมทูต เขาจะปลดทุกคนให้เป็นอิสระจากการพันธนาการของยมทูต ซึ่งการหายตัวไปอย่างลึกลับของ หัวหน้าใหญ่ยามาโมโตะ ทำให้โซลโซไซตี้ต้องร้อนเป็นไฟอีกครั้ง! ติดตามได้ในบลีชตั้งแต่ ตอนที่230 เป็นต้นไป

[แก้] โลกของบลีช

โซลโซไซตี้ ในโลกของบลีช กรรมที่คนคนหนึ่งทำขณะมีชีวิตเป็นตัวกำหนดที่ที่วิญญาณของคนคนนั้นจะไปหลังความตาย วิญญาณของคนดี จะถูกส่งไปที่ โซล โซไซตี้ (Soul Society) ซึ่งคนโดยทั่วไปเรียกว่า "สวรรค์" สำหรับฮอลโลว์ที่ถูกทำลายด้วยดาบฟันวิญญาณ ดาบฟันวิญญาณจะชำระบาปที่ทำไปในระหว่างเป็นฮอลโลว์ให้ หากก่อนตายเป็นคนดีก็ไปโซลโซไซตี้ หากเป็นคนชั่วจะถูกส่งไปยังนรก แม้ว่านรกในบลีชจะมีความหมายเหมือนนรกโดยทั่วไปคือเป็นสถานที่สำหรับลงโทษ ผู้ทำบาป แต่โซลโซไซตี้ไม่ใช่สถานที่ปูนบำเหน็จผู้ทำกรรมดีเหมือนสวรรค์ กลับเป็นแค่ชุมชนของวิญญาณที่มีสภาพสังคมคล้ายกับประเทศญี่ปุ่นสมัยโบราณ โซลโซไซตี้ทำหน้าเป็นที่พักของวิญญาณก่อนที่จะไปเกิดเป็นมนุษย์ใหม่อีกครั้ง แบ่งเขตเป็น 2 เขตใหญ่คือ "ลูคอนไก" (流魂街) ซึ่งมีเขตการปกครองทั้งหมด 320 เขต ซึ่งเป็นสถานที่อาศัยของวิญญาณเร่ร่อน กับ "เซย์เรย์เทย์" (瀞霊廷) ที่อยู่กึ่งกลางของโลกโซลโซไซตี้ ซึ่งเป็นที่อาศัยของเหล่ายมทูตและตระกูลขุนนางในโซลโซไซตี้ พวกที่ไม่ใช่ยมทูตแต่ทำการบุกเข้ามาในเขตของเซย์เรเทย์โดยไม่ได้รับอนุญาตจะ ถูกเรียกว่า "เรียวกะ" ซึ่งหากทาง 13 หน่วยพิทักษ์สามารถควบคุมตัวไว้ได้ เรียวกะจะถูกนำไปพิพากษาโทษหนักหรือเบาตามความผิดที่ได้ก่อไว้กับทางเซย์เร ย์เทย์
โซลโซไซตี้ เป็นมิติที่ประกอบด้วยอนูวิญญาณเป็นพื้นฐาน ไม่ว่าสิ่งก่อสร้าง ต้นไม้ ก้อนหิน หรือพื้นดิน ดังนั้นวิญญาณที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้จึงอยู่ในสภาพของสิ่งมีชีวิตที่มีอนู วิญญาณเป็นพื้นฐาน คล้ายคลึงกับโลกที่มีอนุภาคต่างๆ เป็นพื้นฐานของมวลสารนั่นเอง วิญญาณจึงมีอวัยวะมีเลือดเฉกเช่นเดียวกับร่างกายมนุษย์ต่างกันเพียงอนุภาค มูลฐานเท่านั้นเอง
นรก
สถานที่ซึ่งวิญญาณที่มีบาปในจิตใจจะต้องไป ในเรื่องเทพมรณะนี้ เมื่อเหล่าวิญญาณที่กลายสภาพเป็นฮอลโล่ว์และทำชั่วในตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ ประตูนรกก็จะมาปรากฏและดึงวิญญาณดวงนั้นลงสู่ขุมนรกในทันที เพราะดาบฟันวิญญาณของยมทูตจะชำระบาปที่ทำระหว่างเป็นฮอลโลว์ให้เท่านั้น(บาป หลังความตาย) ไม่ได้ชำระบาปที่ทำขึ้นในระหว่างที่ยังมีชีวิตอยู่
(สังเกตว่า ประตูนรกจะปรากฏในเล่ม2เท่านั้นเพราะ เนื้อเรี่องอ.คุโบเขียนกำหนดไว้ว่า ฮอลโลว์ที่เคยทำบาปใหญ่หลวงไว้มีแค่ ชริคเกอร์ ที่เคยเป็นฆาตกร)

[แก้] ฮูเอโค มุนโด้

โลกของเหล่าฮอลโล่ว์

[แก้] ตัวละคร

ดูรายละเอียดตัวละครเพิ่มเติมได้ที่ คาแร็กเตอร์และตัวละครในเทพมรณะ

[แก้] เบาท์

ดูรายละเอียดตัวละครเพิ่มเติมได้ที่ ตัวละครในเทพมรณะ

[แก้] อาวุธและวิชาโจมตี

ดูรายละเอียดตัวเพิ่มเติมได้ที่ อาวุธและวิชาโจมตีในเทพมรณะ

[แก้] องค์กรในบลีช

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ รายชื่อหน่วยในเทพมรณะ

[แก้] ภาพยนตร์อะนิเมะ

  1. Bleach The sealed Sword Frenzy (OVA)
  2. Bleach Memories of Nobody (The Movie 1)
  3. Bleach The DiamondDust Rebellion (The Movie 2)
  4. Bleach Fade to Black (The Movie 3)

[แก้] เพลงประกอบอะนิเมะ

[แก้] เพลงเปิด (OPENING)

  • Asterisk (ตอนที่ 1-25)
ขับร้องโดย Orange Range
  • D-tecnoLife (ตอนที่ 26-51)
ขับร้องโดย UVERworld
  • (Ichirin no Hana) (ตอนที่ 52-74)
ขับร้องโดย High and Mighty Color
  • TONIGHT, TONIGHT, TONIGHT (ตอนที่ 75-97)
ขับร้องโดย BEAT CRUSADERS
  • Rolling Star (ตอนที่ 98-120)
ขับร้องโดย YUI
  • ALONES (ตอนที่ 121-143)
ขับร้องโดย Aqua Timez
  • After Dark (ตอนที่ 144-167)
ขับร้องโดย Asian Kung-Fu Generation
  • CHU-BURA (ตอนที่ 168-189)
ขับร้องโดย KELUN
  • VELONICA (ตอนที่ 190-214)
ขับร้องโดย Aqua Timez
  • Shoujo S (ตอนที่ 215-242)
ขับร้องโดย Scandal
  • Anima Rossa (ตอนที่ 243-265)
ขับร้องโดย Porno Graffiti
  • Change (ตอนที่ 266-ปัจจุบัน)
ขับร้องโดย Miwa

[แก้] เพลงปิด (ENDING)

  • Life is Like a Boat (ตอนที่ 1-13)
ขับร้องโดย ริเอะ ฟุ
  • (Thank You!!) (ตอนที่ 14-25)
ขับร้องโดย HOME MADE คาโซคุ
  • (Houkiboshi) (ตอนที่ 26-38)
ขับร้องโดย Younha
  • happypeople (ตอนที่ 39-51)
ขับร้องโดย Skoop on Somebody
  • LIFE (ตอนที่ 52-63)
ขับร้องโดย YUI
  • (My Pace) (ตอนที่ 64-74)
ขับร้องโดย SunSet Swish
  • Hanabi (ตอนที่ 75-86)
ขับร้องโดย อิคิโมโนะ งาคาริ
  • MOVIN!! (ตอนที่ 87-97)
ขับร้องโดย ทาคาชา
  • Baby It's You (ตอนที่ 98-109)
ขับร้องโดย JUNE
  • (Sakura Biyori) (ตอนที่ 110-120)
ขับร้องโดย Mai Hoshimura
  • (Tsumasaki) (ตอนที่ 121-132)
ขับร้องโดย Ore Ska Band
  • (Daidai) (ตอนที่ 133-143)
ขับร้องโดย Chatmonchy
  • (Tane wo Maku Hibi) (ตอนที่ 144-154)
ขับร้องโดย Atari Kousuke
  • Kansha (ตอนที่ 155-167)
ขับร้องโดย RSP
  • Orange (ตอนที่ 168-176)
ขับร้องโดย Lil'B
  • Gallop (ตอนที่ 177-189)
ขับร้องโดย pe'zmoku
  • Hitohira No Hanabira (ตอนที่ 190-201)
ขับร้องโดย Stereo Pony
  • Sky Chord ~Otona ni Naru Kimi he~ (ตอนที่ 202-214)
ขับร้องโดย Tsuji Shion
  • Kimi wo Mamotte, Kimi wo Aishite (ตอนที่ 215-229)
ขับร้องโดย Sambomaster
  • mad surfer (ตอนที่ 230-242)
ขับร้องโดย kenichi asai
  • Sakurabito (ตอนที่ 243-255)
ขับร้องโดย SunSet Swish
  • Tabidatsu Kimi e (ตอนที่ 256-265)
ขับร้องโดย RSP
  • Stay beautiful (ตอนที่ 266-278)
ขับร้องโดย DIGGY-MO'
  • Echoes (ตอนที่ 279-ปัจจุบัน)
ขับร้องโดย Universe

[แก้] แหล่งข้อมูลอื่น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น